ประตูมังกร เขาซีซาน

เป็นวัดในลัทธิเต๋า สร้างในช่วง ค.ศ.1718-1843 มีประวัติความเป็นมานับ 1,000 ปี คนจีนเชื่อกันว่าเมื่อมาถึงคุนหมิงแล้วจะต้องมาที่เขาซีซานแห่งนี้เพื่อไปลอดประตูมังกร เมื่อลอดแล้วสิ่งที่ไม่ดีก็จะหายไปและจะมีความโชคดีเพิ่มขึ้นร้อยเท่าพันเท่า

หมู่บ้านวัฒนธรรมยูนนาน

เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเวทีแสดงวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยให้กับนักท่องเที่ยว ภายในหมู่บ้านมีการจำลองบ้านของชนกลุ่มน้อยทั้ง 26 ชนกลุ่มของมณฑล ยูนาน

วัดหยวนทง

เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของมณฑลยูนนาน ตั้งอยู่ที่ถนนหยวนทงเจียง เป็นอารามทางพระพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในคุนหมิง


อุทยานป่าหิน

เป็นป่าหินที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งสมัยก่อนเป็นเพียงหินปูนที่อยู่ใต้ผืนน้ำ แต่เมื่อเปลือกโลกเกิดการดันตัวสูงขึ้น จึงกลายเป็น ป่าหิน ที่ผุดขึ้นเหนือพื้นดินและการกัดเซาะของสายฝนที่ตกลงมา ทำให้หินมีรูปทรงแตกต่างกันไป

ถ้ำจิ่วเซียง

เป็นถ้ำมหัศจรรย์ที่สวยงามมาก ถ้ำนี้เกิดจากการกัดเซาะของภูเขาไฟโบราณ จนเกิดเป็นโพรงถ้ำขนาดยาว 3-4 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีน้ำตก 2 สาย เรียกกันว่า น้ำตกผัวเมีย เป็นน้ำตกใหญ่และอยู่กลางระหว่างถ้ำเป็นภาพที่สวยงามมาก

ทะเลสาบเตียนฉือ

ได้รับฉายาว่า ไข่มุกบนที่ราบสูงแห่งยูนนาน และเนื่องจากมีลำน้ำไหลออกจากทะเลสาบเหมือนย้อนกลับ ทะเลสาบนี้จึงมีชื่อว่า “เตียน ฉือ”


ฮาร์บิน ไอซ์ แอนด์ สโนว์ อมิวส์เมนท์ เวิลด์

งานเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งในงานจะมีประติมากรรมน้ำแข็งเป็นรูปร่างต่างๆ อาทิเช่น ปราสาท, หอคอย, พระราชวังโบราณ และอื่นๆ อีกมากมาย

โบสถ์เซนต์โซเฟีย

เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่ชาวรัสเซียสร้างขึ้น ปัจจุบันนี้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมยุโรปตะวันออกของเมืองฮาร์บิน ภายในโบสถ์จัดแสดงการศาสนา สถาปัตยกรรมและผังเมืองสมัยปัจจุบันและอนาคตอย่างละเอียดและมีสวยงาม

ถนนจงหยางต้าเจีย

เป็นถนนที่ปูด้วยหินสีเขียวอ่อนทั้งสาย เป็นถนนย่านธุรกิจและการค้าที่ขึ้นชื่อของเมืองฮาร์บิ้น มีความยาว 1.4 ก.ม. ทอดตัวอยู่ในเขตเต้าหลี่ เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสถาปัตยกรรมแบบยุโรป


อนุสาวรีย์ป้องกันน้ำท่วม

ตั้งอยู่ ณ บริเวณชายฝั่งแม่น้ำซงฮัว เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงความพยายามของชาวเมืองฮาร์บิน พยายามต่อสู้กับอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ.1957

Jile Temple

เป็นวัด 1 ใน 3 ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน วัดนี้เคร่งครัดตามแบบวัดจีนดั้งเดิม ตัวอาคารสถาปัตยกรรมสวยงามและมีรสนิยม

พระราชวังต้องห้าม

เป็นพระราชวังโบราณซึ่งยังคงเหลืออยู่ ตั้งอยู่ที่ใจกลางกรุงปักกิ่ง เป็นทั้งบ้านและชีวิตของจักรพรรดิในราชวงศ์หมิงและชิงรวมทั้งสิ้น 24 พระองค์ พระราชวังเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 500 ปี

หอสักการะฟ้าเทียนถัน

หนึ่งในมรดกโลกยิ่งใหญ่อลังการของประเทศจีน เป็นสถานที่ซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดา

จัตุรัสเทียนอันเหมิน

เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทางการเมืองของประเทศจีน

สวนสาธารณะเป๋ยไห

เป็นราชนิเวศน์ที่เริ่มสร้างขึ้นในปีค.ศ.1166 เคยถูกใช้เป็นสถานที่ว่าราชการประกอบพิธีบวงสรวงหรือท่องเที่ยวพักผ่อนของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ตั้งแต่ราชวงศ์ เหลียว จิน หยวน (มองโกล) หมิง และ ชิง

กำแพงเมืองจีน

เป็นอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ที่ยาวกว่าอนุสาวรีย์ใดๆที่เคยสร้างมาในประวัติโลก และเป็นผลงานทางด้านวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นรองก็แค่เพียงมหาปิรามิดแห่งกิซ่า กำแพงเมืองจีนเริ่มก่อสร้างเมื่อประมาณ สองพันกว่าปีมาแล้ว และมันก็ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน

เดอะบันด์ (The Bund)

คนจีนเรียกว่า ว่ายทาน (หาดข้างนอก) จากการพัฒนาเป็นเวลาร้อยกว่าปี ปัจจุบันมีตึกสูงเรียงรายการจราจรแน่นขนัด สถาปัตยกรรมโบราณและสมัยใหม่ที่อยู่รวมตัวกันเหล่านี้ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของนครเซี่ยงไฮ้แล้ว

หอไข่มุก

หอไข่มุกตั้งอยู่ริมแม่น้ำหวงผู่ ตรงข้ามกับ The Bund รูปร่างของหอไข่มุกจะมีขาตั้ง 3 ขา และมีรูปทรงเหมือนเม็ดไข่มุกอยู่ 3 เม็ดเรียงกันในแนวตั้ง นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเซี่ยงไฮ้

ย่านช้อปปิ้งนานกิง

ถนนหนานจิงเป็นย่านการค้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในเซี่ยงไฮ้ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ปัจจุบันย่านนี้ผสมผสานระหว่างศูนย์การค้าบนอาคารสูงและอาคารสไตล์โคโลเนียลปะปน ไปกับร้านค้าริมถนน

วัดพระหยกขาว

เป็นพระพุทธรูปหยก ถูกสร้างขึ้นในปี 1882 เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ 2 องค์ ซึ่งอัญเชิญมาจากพม่า วัดแห่งนี้ถูกทำลายในช่วงราชวงศ์ชิงถูกโค่นล้มบัลลังก์ แต่โชคดีที่พระพุทธรูปหยกขาวไม่ได้ถูกทำลาย จึงอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดที่สร้างขึ้นใหม่ในปี 1928

สวนอวี้หยวน

เป็นสวนที่แสดงถึงสถาปัตยกรรมของจีนแบบโบราณเดิมใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจส่วนตัวของตระกูลผัน (ผันตุ้นหยวน) สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1577 โดยใช้เวลาในการสร้างนานถึง 18 ปี และได้รับการปรับปรุงอีกครั้งใน 400 ปีถัดมา มีการปรับปรุงต่อเติมเพิ่มขึ้น โดยให้คงบรรยากาศและองค์ประกอบโดยรวมไว้

โบสถ์พระหฤทัย

เป็นอาคารคริสเตียนเพียงไม่กี่แห่งในกว่างโจว สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ. 1863 และ 1888 (ในช่วงราชวงศ์ชิง) และเป็นอาคารโกธิคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โครงสร้างของโบสถ์สร้าง ด้วยหินแกรนิต

วัดไทรหกต้น

หรือ วัดลิ่วหรงซื่อ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1080 (ค.ศ. 537) เป็นวัดเก่าแก่สร้างตั้งแต่สมัยถัง วัดแห่งนี้มีเจดีย์ 9 ชั้น สร้างขึ้นมาพร้อม ๆ กับวัดเพื่อบรรจุพระสารีริกธาตุ ที่เก่าและสูง เลยเป็นสิ่งก่อสร้างโบราณที่มีความสูงที่สุดในกวางเจา เจดีย์นี้เรียกว่า เจดีย์ดอกไม้

แคนตัน ทาวเวอร์

อีกชื่อนึงก็คือ Guangzhou Tower (กว่างโจว ทาวเวอร์) เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ของเมืองกว่างโจว ประเทศจีน สร้างเสร็จก่อนเปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ที่กว่างโจวเป็นเจ้าภาพในปี 2010 อาคารนี้มีจุดเด่นที่ใครต้องจำได้ที่นั่นคือสัดส่วนทั้งเว้าและโค้งของอาคาร

เขาเหลียนฮัวซาน

นมัสการเจ้าแม่กวนอิม เหลียนหัวซานหรือภูเขาดอกบัว ตั้งอยู่ริมปากอ่าวแม่น้ำจูเจียง ได้ชื่อมาจากเหมืองสกัดหินโบราณซึ่งเป็นหินที่มีลักษณะคล้ายดอกบัว บนภูเขาลูกนี้ได้สร้าง “เจ้าแม่กวนอิมองค์ยืน” หล่อด้วยทองเหลืองบรรจงสร้างขึ้นด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า ถือเป็นเจ้าแม่กวนอิมสูงที่สุดในโลก

พิพิธภัณฑ์ตระกูลเฉิน

เป็นตระกูลใหญ่ 1 ใน 5 ของเมืองกวางโจว สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1890 ในสมัยราชวงศ์ชิง โดยคนในตระกูลเฉินร่วมกันออกเงินสร้างเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ตระกูลของตนเอง



สวน Xuan Wu Lake

มีทะเลสาบที่อยู่กลางสวน Xuan Wu Lake ขนาดใหญ่ที่มีสะพานวางตัดเป็นรูปกากบาท กลางทะเลสาบมีเกาะหลายเกาะให้ได้เดินชม ซึ่งมีต้นซากุระและต้นหลิวที่ปลิวไหวลู่ลมภายในสวน พลางชื่นชมสถาปัตยกรรมของเจดีย์และศาลา

สุสานหลวงหมิงเซี่ยว

เป็นที่ฝังพระศพจักรพรรดิหงอู่ ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง และมีสิ่งสำคัญคือป้ายศิลาจารึกที่จักรพรรดิหย่งเล่อ โปรดเกล้า ฯ ให้จารึกคำสรรเสริญพระเกียรติยศของจักรพรรดิหงอู่พระราชบิดากว่า 2,746 ตัวอักษร สุสานหลวงแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

สุสาน ดร.ซุนยัดเซ็น

สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมา นานกิง คือการคารวะสุสาน ดร.ซุน ยัดเซน บิดาแห่งจีนยุคใหม่ ที่ตั้งอยู่บนเขาจิงซาน (ภูเขาสีม่วง) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนทุกคน ซึ่งครอบคลุมอาณาเขตราว 80,000 ตารางเมตร ในเขตชานเมืองของนานกิง

เจดีย์กระเบื้องเคลือบ

1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในสมัยราชวงศ์หมิง ภายหลังได้ถูกทำลายในช่วงเกิดกบฏไท่ผิงในปี ค.ศ.1856 จนเสียหายย่อยยับ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2010 มีการบูรณะเจดีย์ขึ้นมาอีกครั้งด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัย แต่สถานที่แห่งนี้ยังเป็นประจักษ์พยานสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่อยู่เคียงคู่กับนานกิงมาจนถึงปัจจุบัน

พิพิธภัณฑ์นครนานกิง

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับรู้ความเป็นมาของวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวจีนและชาวนานกิง ภายในรวบรวมโบราณวัตถุกว่า 420,000 ชิ้น เช่น ชุดเครื่องเคลือบลายคราม ชุดเกราะโบราณ ชุดห่อพระศพ เป็นต้น

หอกระเรียนเหลือง

หอสูง 5 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่บนเขางู (Snake Hill) ริมฝั่งแม้น้ำฉางเจียง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยสามก๊กเพื่อใช้เป็นป้อมสังเกตการณ์ศัตรูโดยซุนกวนตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นอ๋อง นอกจากนี้หอกระเรียนเหลืองยังมีชื่อเสียงมากขึ้นเมื่อยอดกวีเอกอย่างหลี่ไป๋ได้แต่งกลอนเกี่ยวกับหอนี้เอาไว้

ทะเลสาบตะวันออก

ทะเลสาบตะวันออกเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเขตเมืองของจีน โดยเป็นที่ตั้งของเขตอนุรักษ์พันธุ์นก สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจต่างๆ ลองเดินเล่นริมทะเลสาบ ใต้ร่มเงาของต้นไม้ดอกและเพลิดเพลินไปกับภูมิทัศน์อันสวยงาม

วัดกุ้ยหยวน

วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง 1 ใน 4 ของเมืองอู่ฮั่น สร้างขึ้นในราวปลายราชวงศ์หมิงต่อเนื่องถึงต้นราชวงศ์ชิง ภายในมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่ชาวจีนนิยมไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล มีวิหารพระอรหันต์ 500 องค์ที่ปั้นจากดินเหนียวเคลือบทอง ซึ่งแต่ละองค์มีรูปร่างหน้าตาและอากัปกริยาที่ไม่ซ้ำกัน

ถนนคนเดินเจียงฮั่น

พื้นที่นี้เคยเป็นพื้นที่ในอารักขาของอังกฤษ และเป็นย่านการเงินที่มีชื่อเสียงยาวนานหลายศตวรรษ ทำให้อาคารสถานที่แถบนี้ออกแบบในสไตล์ตะวันตกและมีความเป็นมา ทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่น ที่นี่มีทั้งแบรนด์เนมสุดหรูให้ได้เลือกช้อปกันหรือใครจะช้อปราคาเบาๆสบายกระเป๋า ก็มีสินค้าพื้นเมืองให้เลือกสรร รวมถึงอาหารรสชาติอู่ฮั่นแท้ ๆ ก็มีมากมาย

พิพิธภัณฑ์มณฑลหูเป่ย

พิพิธภัณฑ์ที่มีขื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน ที่จัดแสดงแสดงผลงานวัตถุโบราณที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองอู่ฮั่น ภายในพิพิธภัณฑ์กว้างใหญ่แห่งนี้มีของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย



เกาะกู่ลั่งอวี่

เป็นเกาะที่ได้รับชื่อว่า เกาะดนตรี เนื่องจากผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะนั้น นิยมชมชอบดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะ เปียโน จะเป็นเครื่องเล่นดนตรีที่คนบนเกาะนี้โปรดปานเป็นที่สุด นับเป็นสถานที่ที่มีเปียโนถัวเฉลี่ยมากที่สุดในจีน


วัดหนานผู่โถว

เป็นวัดพุทธที่สร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์ถัง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร เป็นวัดที่อุทิศให้กวนหยิ เทพเจ้าแห่งความเมตตา ซึ่งภายในโถงพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ มีรูปเจ้า แม่กวนอิมถึง 3 องค์ ประดิษฐานอยู่ และเป็นที่เก็บเอกสารเกี่ยวกับพุทธศาสนา และพระพุทธรูปที่ได้มาจากประเทศพม่า

พิพิธภัณฑ์เปียโน

เป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะกิจแต่เพียงแห่งเดียวในโลกที่จัดแสดงเปียโนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก นอกจากการจัดแสดงเปียโนประเภทต่างๆ แล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ยังตกแต่งด้วยภาพเขียนและภาพถ่ายของนักเปียโนผู้มีชื่อเสียงของโลกและของจีน

บ้านดินถู่โหลว

ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ลำดับที่ 36 ของจีน จากยูเนสโก ซึ่งเห็นว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์แห่งภูมิปัญญาของชาวจีนแคะ หรือ เค้อเจีย ที่สืบทอดวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น

สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้

สิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่ 8 ของโลก เป็นหลักฐานสำคัญทางโบราณคดี ในศตวรรษที่ 20 อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของสุสานจักรพรรดิ ฉินซีฮ่องเต้ ใช้เวลาในการก่อสร้าง 11 ปี ก่อนคริสตศักราช 246 ปี

กำแพงเมืองซีอาน

สร้างขึ้นในสมัยราชวงศหมิง โดย จูหยวนจาง ฮ่องเต้องค์แรกแห่งราชวงศ์หมิง กำแพงเมืองแห่งนี้เป็นกำแพงเมืองที่สมบูรณ์ที่สุดในจีน และยังเป็นระบบป้องกันกองทัพโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก


เจดีย์ห่านป่าใหญ่

เจดีย์สูง7ชั้นโดดเด่นเป็นสง่า ที่มองเห็นมาแต่ไกลจากถนนทางตอนใต้ของเมือง คือเจดีย์ห่านป่าใหญ่ศาสนสถานโบราณ ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในแผ่นดินจีน หลังจากที่พระถังซำจั๋งเดินทางไปยังชมพูทวีป เพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎกกลับมา ท่านก็ได้พำนักที่วัดต้าเฉียน และเป็นเจ้าอาวาสของวัดนี้

วัดฝ่าเหมิน

เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เนื่องจากมีพระบรมสารีริกธาตุของ พระพุทธเจ้าศากยมุนี ตั้งประดิษฐานอยู่ เมื่อเดือนเมษายน 1987 นักโบราณคดีจีนได้พบวัง ใต้ดินวังหนึ่งภายใต้ฐานเจดีย์วัดฝ่าเหมินในการบูรณะซ่อมแซมเจดีย์องค์นี้ โบราณวัตถุ อันล้ำค่าที่เก็บไว้ในวังใต้ดินทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้สึกทึ่ง

หอระฆัง

หอระฆังเป็นดุจดั่งหัวใจของเมืองซีอาน เพราะตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางของถนนทั้งสี่ทิศที่กระจายตัวออกไปยังตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้ รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมของประตูเมืองทั้งสี่แห่งราชวงศ์หมิง สร้างในปี ค.ศ. 1384 โดยจูหยวนจางฮ่องเต้

อุทยานหยุนไถซาน

หัวชิงฉือ อยู่บริเวณเชิงเขาหลี่ซาน ไม่ไกลจากสุสานกองทัพทหารดินเผาจิ๋นซีฮ่องเต้มากนัก นอกจากความงดงามของทัศนียภาพแล้ว ที่นี่ยังนับเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์กว่า 3,000 ปี